Minimalist มีที่มาจมีจุดเริ่มต้นมาในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือช่วงเดียวกันกับยุคโมเดิร์น (Modernism) โดยกลุ่มศิลปินและนักออกแบบ ซึ่งกระแสนี้เกิดจากความเบื่อหน่ายกับกระแสงานศิลป์และงานออกแบบแนว Abstract Expressionism และมักจะผูกโยงกับแนวสมัยใหม่หรือ Modernism (ซึ่งก็ต่อต้านงานออกแบบและงานศิลป์แนว Art Deco มาอีกทอดหนึ่ง) โดยศิลปะแบบ Minimalism (มินิมอลลิซึม) เป็นการลดทอดจนเหลือเพียงความเรียบง่ายที่สุด ตัดทอนสิ่งอื่น ๆ ที่มองว่าไม่จำเป็น และแสดงออกถึงการมีอยู่ตามความที่เป็นจริงแบบตรงไปตรงมา วัตถุทรงกลม ก็คือทรงกลม สี่เหลี่ยมจัตุรัสก็คือ สี่เหลี่ยมจัตุรัส เป็นต้น
เป็น Minimalist (มินิมอลลิสม์) มีประโยชน์อย่างไร ?
“Minimalist คือการสร้างอิสระให้ตัวเอง” เพราะถ้าหากเราสามารถปล่อยวางสิ่งไม่จำเป็นออกจากชีวิตของเราได้ เราก็จะมีพื้นที่และอิสระในการใช้เวลากับสิ่งที่เรารักจริง ๆ มากขึ้น โดยเราไม่จำเป็นต้องผูกมัดกับความต้องการของสังคมที่เราอาจจะไม่ได้อยากได้ เราไม่ต้องเปลืองเงินทองหรือเปลืองเวลากับอะไรที่ซ้ำซากและอาจจะไม่ได้จำเป็นสำหรับเราจริง ๆ นั่นเอง ฉะนั้นการสร้างพื้นที่ให้สิ่งที่เรารักก็หมายความได้ว่าเราจะประหยัดทั้งเวลา ทั้งเงินทอง และสมาธิที่เราอาจจะต้องใช้ไปกับอย่างอื่นที่ไม่จำเป็นไปได้ จึงแปลว่าเราจะสามารถใส่ใจกับสิ่งที่สำคัญในชีวิตของเราเองได้มากกว่า ได้โฟกัสกับงานที่สำคัญได้เยอะกว่า และโฟกัสกับการใช้จ่ายเท่าที่จำเป็นและทำให้เรามีความสุขได้จริง ๆ