ขณะการวางผังอาคารนี้ควรตรวจสอบหมุดหลักเขตที่ดินกับโฉนดที่ดินว่าครบถ้วนตามแบบหรือไม่ โดยเริ่มจากหาตำแหน่งเสาต้นแรกที่จะเป็นจุดอ้างอิง กำหนดด้านเริ่มที่จะให้ขนานกับแนวเขตที่ดิน (ว่าจะขนานกับถนนด้านหน้าบ้านหรือขนานกับที่ดินด้านข้าง) จากนั้นใช้หลักมุมฉากเพื่อหาแนวอาคารอีกด้าน (อาจใช้กล้องทีออโดไลต์ (กล้องวัดมุม) หรือใช้กฏ 3 : 4 : 5 สร้างมุมฉากก็ได้) แล้วจึงหาตำแหน่งกึ่งกลางของฐานราก (หรือเสาอาคาร) ถัดไปจนครบทุกตำแหน่ง สำหรับอาคารขนาดเล็กอาจใช้วิธีขึงเอ็นให้เห็นเป็นแนว จากนั้นจึงทำเครื่องหมายแสดงตำแหน่งฐานรากให้เห็นชัดเจน (อาจใช้วิธีพ่นสีเพื่อแสดงตำแหน่งฐานราก) โดยตรวจสอบอีกครั้งว่าองค์ประกอบอาคารที่ยื่นออกมาตามแบบนั้นให้ถูกต้องตามแบบก่อสร้าง เมื่อได้ระยะที่จะวางผังแล้วจึงตอกหลักผังให้แน่นและมั่นคง ไม่เกิดการเคลื่อนที่ในภายหลัง ในขั้นตอนนี้ อาจมีการเปลี่ยนแปลงหรือปรับระยะต่างๆ ให้เหมาะสม หากพบอุปสรรคที่หน้างาน (เช่น แนวต้นไม้ใหญ่อยู่ใกล้หรืออยู่ในบริเวณที่ตรงกับแนวอาคารที่จะก่อสร้าง แต่ต้องการคงไว้ ไม่อยากตัดทิ้ง) อาจพิจารณาขยับผังการก่อสร้างให้เหมาะสม โดยผู้รับเหมาจะนำเสนอแนวทางแก้ไขให้ผู้ออกแบบเซ็นชื่อรับรอง แล้วจึงดำเนินการกำหนดผังการก่อสร้าง
สำหรับเจ้าของบ้านเอง การอ่านแบบแปลนของฐานรากได้จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สามารถดูการวางผังรอบบริเวณการก่อสร้างของช่างเบื้องต้นได้ว่าตรงตามแบบไหม รวมถึงพิจารณาว่าระยะถอยร่นของแนวอาคารทุกด้าน (รวมทั้งส่วนที่ยื่นออกจากตัวอาคาร) ถูกต้องตามที่กฏหมายกำหนดหรือไม่ ทั้งนี้ ที่ดินจริงอาจมีความคลาดเคลื่อนไปจากที่ดินในโฉนดบ้าง เจ้าของบ้านจึงควรดูจากจุดอ้างอิงจุดแรกเป็นหลัก และพิจารณาว่าแนวอาคารด้านไหนที่วางตัวขนานกับแนวเขตที่ดิน แล้วจึงค่อยพิจารณาจุดอื่นๆ เทียบกับเส้นอ้างอิง ตรวจสอบศูนย์เสา ระยะห่างระหว่างเสา ระยะรวมทั้งหมด ให้สัมพันธ์กันทั้งเรื่องของตำแหน่ง ทิศทาง และแนวฉาก โดยควรให้ผู้รับเหมาทำเครื่องหมายแสดงตำแหน่งแนวเสา พื้นที่ฐานรากให้ชัดเจน (ขึ้นอยู่กับการตกลงกันตั้งแต่แรก) เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบแนวผังอาคารว่าเป็นไปตามแบบหรือไม่ *เจ้าของบ้านอาจว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญเฉพาะมาตรวจสอบให้เพื่อความมั่นใจเมื่อติดตั้งการวางผังอาคารเสร็จ จะทำให้รู้ตำแหน่งระยะกึ่งกลางของเสาและฐานราก เพื่อให้สามารถดำเนินตามขั้นตอนการก่อสร้างบ้านให้เป็นไปตามแบบก่อสร้าง ได้บ้านที่ถูกต้องตามที่ได้ออกแบบไว้ และให้มีความคลาดเคลื่อนน้อยที่สุด